top of page
รูปภาพนักเขียนhoparound.co

Site of Reversible Destiny กิฟุ

อัปเดตเมื่อ 22 ธ.ค. 2564


Site of Reversible Destiny

อาคารทรงแปลกสีหวานเจี๊ยบ ดูเผินๆก็ช่างเหมาะจะเป็นโลเคชั่นถ่ายรูปคู่รักในช่วงวาเลนไทน์เสียเหลือเกิน ตัวสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาให้ลวงตาก็ยิ่งทำให้ ”สถานที่แห่งโชคชะตาที่พลิกกลับได้” นี้เต็มไปด้วยมุมถ่ายรูปล้ำๆไม่ซ้ำใคร ทั้งเอ้าท์ดอร์และอินดอร์ ที่สำคัญเรายังไม่ค่อยเห็นคนไทย #hop มาที่นี่กันเลย

.

แต่เดี๋ยวก่อน... ทำไมชื่อที่นี่จึงแปลกจังนะ เห็นแหววๆแบบนี้ แท้ที่จริงสถานที่แห่งนี้สร้างมาจากแนวคิดที่ลึกซึ้งมากของศิลปิน/สถาปนิกชั้นครู 2 ท่านที่ต่างก็ล่วงลับไปแล้ว คือ Shusaku Arakawa ชาวนาโงย่า และ Madeline Gins ชาวนิวยอร์ค

.

ทั้งคู่เชื่อว่าโชคชะตาของมนุษย์ที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้วนั้น สามารถที่จะถูกเปลี่ยนแปลงและพลิกผันดันกลับได้ หรือพูดง่ายๆก็คือ มนุษย์ฝืนชะตาฟ้าได้ กระทั่งความตายที่ทั้งคู่เชื่อว่าสักวันมนุษย์ก็จะสามารถเอาชนะได้ แม้ว่าทั้งสองท่านจะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงวันนั้นก็ตาม (Arakawa เสียชีวิตในปี 2010 และ Gins ในปี 2014 ตามลำดับ)

วิธีการเดินทางมาที่นี่ จากนาโกย่า

Meitetsu Nagoya Station(Kansai Line Local Yokkaichi ) >

Kuwana Station (เปลี่ยนรถไฟเป็น Yoro Tetsudo Local Ogaki) มุ่งหน้าไปทาง > Yōrō Station

ให้ลงสถานี Yōrō Station

ใช้เวลาเดินทางประมาณ​ 1 ชม. 30 นาที

จากนั้นเดินเท้าไปอีกประมาณ 10-12 นาที

ที่นี่เปิด เวลา 09.00 - 17.00 น. หยุดวันจันทร์

ซื้อตั๋วเข้าชมกันก่อนเลย คนละ 770 เยน

มากันที่ตึกแรก Reversible Destiny Office - Yoro เป็นตึกไฮไลท์ของที่นี่เลย

Arakawa และ Gins จงใจออกแบบสถานที่แห่งนี้ให้เต็มไปด้วยมุมมองน่าพิศวงงงงวย เพราะต้องการจะสื่อว่าความเปลี่ยนแปลงเชิงกายภาพของ space และท่วงท่าของร่างกายเรานั้น สามารถกระตุ้นให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในมโนสำนึกของเราได้ และเมื่อจิตใจของเรามีมุมมองและความเชื่อใหม่ๆ เราก็จะสามารถเอาชนะ หรือเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเราได้ในที่สุด ลึกล้ำไหมล่าาาา


The Mechanism of Meaning (กลไกแห่งความหมาย)

แต่ก็ใช่ว่าจู่ๆทั้งสองท่านนี้จะมีแนวคิดนี้ขึ้นมานะครับ ทั้งคู่ใช้เวลาทำงานร่วมกันในโปรเจ็คท์วิจัยที่ชื่อว่า The Mechanism of Meaning (กลไกแห่งความหมาย) มาตั้งแต่ปี 1963 และร่วมด้วยช่วยกันหาคำตอบเชิงปรัชญามามากว่า 30 ปี จนกระทั่งในช่วงปี 90’s Site of Reversible Destiny แห่งนี้จึงถือกำเนิดขึ้นใน Yoro Park จังหวัด Gifu ซึ่งอยู่นอก Nagoya ไปทางทิศตะวันตก


ตึกที่สอง Critical Resemblance House ที่ด้านบนของตึกเป็นแผนที่จำลองของจังหวัด กิฟุด้วย


บนพื้นในโซนนี้จะเพ้นเป็นแผนที่คร่าวๆ ของเมืองในแต่ประเทศเช่น นิวยอร์ค ปารีส ปักกิ่ง รวมไปถึงกรุงเทพฯ ด้วย ในรูปนี้มีชื่อ WAT BAWONNWET - KLONG ... BANG LAMPHOO...

หากเพื่อนๆกำลังมองหาที่ถ่ายรูปเก๋ล้ำไม่ซ้ำใคร และที่มากกว่านั้นคือได้รับแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตกลับไปด้วย เราแนะนำให้มาที่นี่เลย เพื่อนๆสามารถใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้ทั้งวัน เพราะนอกจาก SoRD แล้ว ที่นี่ยังมีโซนอื่นๆของ Yoro Park ที่มีขนาดมหึมาและทีทั้งวัด ศาลเจ้า น้ำตก และสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยแมกไม้ร่มรื่น แต่อย่าลืมพกอาหารติดตัวมาด้วยนะครับเพราะเราไม่เห็นร้านอาหารเลย อ้อ! แล้วก็ใส่รองเท้ารัดส้นที่เดินสะดวกไม่ลื่นนะครับ เพราะเส้นทางนั้นแทบไม่มีทางเรียบให้เดินและต้องปีนป่ายหลายจุด


ช่วงนี้โลกเรากำลังคุกรุ่นไปด้วยเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมากมาย เพื่อนๆดูแลตัวเองกันด้วยนะครับ อย่างน้อยงานศิลปะเชิงสถาปัตยกรรมจากคนรุ่นก่อนที่เรานำเสนอในวันนี้ ก็ยังคอยช่วยย้ำเตือนว่า ไม่ว่าจะโชคชะตาของเราจะเป็นอย่างไร ถ้าเราตั้งใจจริงๆ เราจะสามารถปรับเปลี่ยนมันได้เสมอ และยิ่งถ้าเรารวมพลังกัน พรุ่งนี้ที่ดีกว่าย่อมอยู่ไม่ไกลเกินรอครับ อย่าเพิ่งท้อนะค้าบบบบ

Facebook: @hoparound.co

Instagram: @hoparound.co

Youtube: hoparound.co


#CentralJapan #Japan #Gifu #Nagoya #กิฟุ #เที่ยวกิฟุ #ญี่ปุ่น #เที่ยวญี่ปุ่น #เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง #มิวเซี่ยมในกิฟุ #มิวเซี่ยมในนาโกย่า #เที่ยวนาโกย่า #เมืองนาโกย่า

ดู 123 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Commentaires


bottom of page