top of page
  • รูปภาพนักเขียนhoparound.co

Centara Reserve Samui ปฐมบทแบรนด์ใหม่สู่ความใส่ใจสูงสุดจากเซ็นทารา

อัปเดตเมื่อ 23 ม.ค. 2565


Centara Reserve Samui เซ็นทารา รีเซิร์ฟ สมุย รีวิวเซ็นทารา รีเซิร์ฟสมุย ราคา โปรโมชั่น เซ็นทารา รีวิวโรงแรม เว็ปไซต์นำเที่ยว Let's Hoparound www.hoparound.co centara central centara beach centara reserve samui samui resort best resort in samui thailand where to stay in samui best hotel sha+ sha plus sha Centara Reserve Samui Bangkok Airways รีวิวโรงแรมเซ็นทารา รีเสิร์ฟ สมุย รีวิวรีสอร์ทสมุย รีวิว ที่ตั้ง centara reserve samui ฮ็อปอะราวด์ รีวิว ภาพสวย โรงแรมน่าพัก โรงแรมเปิดใหม่ รีสอร์ทเปิดใหม่บนเกาะสมุย โรงแรมเปิดใหม่บนเกาะสมุย โรงแรมใหม่ น่านอน ราคาดี เราเที่ยวด้วยกัน we travel together capella bangkok hotel four seasons samui อมันปุรี amanpuri reserve stories act 5 restaurant fine dining sa-nga thai tapas style melia samui kimpton malai samui best hotel in samui best place to go i am a traveller cake b5 kajornfurst
Centara Reserve Samui
Centara Reserve Samui ปฐมบทแบรนด์ใหม่สู่ความใส่ใจสูงสุดจากเซ็นทารา

น่าตื่นเต้นมากๆครับที่เราอยู่ในยุคที่ได้เห็นแบรนด์โรงแรมไทยก้าวกระโดดไปสู่แถวหน้าของมาตรฐานระดับโลก นี่คือประสบการณ์ใหม่ที่เพื่อนๆสามารถเข้าไปสัมผัสได้ก่อนใคร นี่คืออีกขั้นของการพักผ่อนที่ลักชัวรี่และเป็นส่วนตัว และนี่คือ Centara Reserve แห่งแรกของโลก ณ หาดเฉวงอันเงียบสงบ เกาะสมุย ประเทศไทย


จากสุดยอดทำเลของ Centara Grand Beach Resort Samui ที่ให้บริการมาถึง 23 ปีบนพื้นที่กว่า 20 ไร่บนหาดเฉวงที่สวยที่สุดของเกาะสมุย AvroKo ทีมดีไซน์ระดับโลกผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ Luxury Hospitality Properties โดยเฉพาะได้รับมอบหมายให้เนรมิตงานสถาปัตยกรรมขึ้นใหม่ทั้งหมด (จะยกเว้นก็เพียงเสาเท่านั้น) เพื่อพลิกโฉมสถานที่แห่งนี้ให้รองรับแบรนด์โรงแรมใหม่ที่ทั้งทันสมัยและละเมียดละไมกว่าเดิม ด้วยเงินทุนหนาตึ้บกว่า 1,200 ล้านบาท


หลังจากปิดปรับปรุงไปเกือบ 2 ปีครึ่ง (ตั้งแต่ก่อนโควิดระลอกแรกซะอีก) Centara Reserve แห่งแรกของโลกก็ถือกำเนิดขึ้นอย่างสมเกียรติ พร้อมปักธงเป็นแบรนด์ Lifestyle Luxury Resort ระดับสูงสุดของเครือ Centara นับเป็นอีกก้าวที่น่าจับตามองอย่างมากสำหรับวงการโรงแรมแบรนด์ไทย วันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปชมความหรูหราแบบ Next Level ไปพร้อมๆกันครับ


คลิ๊กชมแบบวิดิโอได้ที่นี่




A Ride To Centara Reserve Samui

เมื่อเรามาถึงสนามบินก็มีรถหรูจากโรงแรมมารอรับ ภายในรถก็มีขนมและน้ำดื่มติดแบรนด์ Centara Reserve เตรียมไว้ให้บริการพร้อมสรรพ การเริ่มต้นที่ดีนั้นมีชัยไปกว่าครึ่ง ตื่นเต้นจัง อยากรู้ว่าตัวโรงแรมจะดีเลิศขนาดไหน


The Arrival: A Warm Welcome With Reserve Touch

จากสนามบินเกาะสมุย ใช้เวลาเพียง 15 นาที รถของโรงแรม (ใครโชคดีอาจได้รถ Mercedez Benz ไปรับด้วยนะครับ) ก็พาเรามาพบกับพนักงานต้อนรับที่จุด Drop-off ก่อนเข้าไปยัง Lobby เราได้รับดอกดาวเรืองมาคนละดอก พนักงานแนะนำให้เราอธิฐานถึงสิ่งที่เราอยากได้แล้วลอยดอกดาวเรืองลงไปยังสระน้ำหน้าล็อบบี้ ถือเป็น Welcome Ritual ที่พิเศษและช่างคิดช่างทำมากๆ ที่สำคัญคือสอดคล้องกับแนวคิดของแบรนด์ Reserve ที่ต้องการให้แขกแต่ละคนได้รับประสบการณ์เฉพาะบุคคล ไม่ซ้ำใคร และการอธิฐานก่อนเข้าพักก็เป็นการสร้างความประทับใจแรกแบบส่วนตัวอย่างแท้จริง


ความประทับใจต่อมานั้นหนีไม่พ้นความสวยแกรนด์แสนเกรียงไกรของ Lobby ที่ออกแบบมาเพื่อ ”ว้าว” แขกได้อยู่หมัด พูดแบบไม่อวยก็คือที่นี่น่าจะเป็นหนึ่งใน Lobby โรงแรมที่เราประทับใจที่สุดในรอบหลายๆปีที่เราเดินทางมาเลยครับ เพดานที่สูงพิเศษ พื้นที่ที่เปิดโล่งกว้าง มิกซ์ของวัสดุที่เลือกใช้ รูปทรงเฟอร์นิเจอร์ โคมไฟ และเครื่องตกแต่งทุกชิ้น พาเล็ทท์สีขาว-น้ำตาล-เขียวที่สะอาดตา แสงธรรมชาติที่ทอดเข้ามา รวมไปถึงวิวศาลาริมทะเลที่เป็น ICON ของโรงงแรมมาแต่เดิม (แต่คราวนี้ได้รับการอัพเกรดใหม่) องค์ประกอบทั้งหมดเมื่อมารวมกันแล้วต้องบอกว่า “จึ้ง” ที่สุด ขออนุญาตให้ภาพทำหน้าที่บรรยาย “ความจึ้ง” นะครับ แต่ยังไงภาพถ่ายก็ยังไม่เหมือนกับการได้ยืนอยู่ตรงนั้นจริงๆอยู่ดี นี่คงเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของ "Reserve Space” หนึ่งใน 4 องค์ประกอบหลักของประสบการณ์แบบ Reserve ที่ทางแบรนด์วางเอาไว้


ระหว่างรอเช็คอิน เราก็ได้รับผ้าเย็นที่มีกลิ่นหอมสดชื่นของส้มออร์แกนิคมาช่วยขจัดความเหนื่อยล้าให้มลายหายไป พร้อมกับ Welcome Drink ที่มีชื่อน่าค้นหาว่า Silver Velvet Purple ความพิเศษอยู่ที่ประกายสีเงินเรืองรองในแก้วเพราะมีส่วนผสมของผง Silver 24K ที่กินได้อยู่ด้วย ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ พนักงานยังนำ “Magic Box” มาเสิร์ฟให้ เป็น Belgian Chocolate ที่ซ่อนของเซอร์ไพร้ซ์ไว้ด้านใน


แค่เพียงการต้อนรับเราก็สัมผัสได้ถึงความใส่ใจ และความแตกต่างของการบริการแบบเหนือความคาดหมายตามคอนเส็ปต์ “Reserve Touch” ได้แล้วล่ะครับ


 

While Waiting for Our Room at Pool Bar

เนื่องจากเราเดินทางมาถึงค่อนข้างเช้า ห้องของเราจึงยังไม่พร้อมให้เราเช็คอินทันที ระหว่างนี้ทางโรงแรมจึงเสนอห้องสำรองให้เราพักผ่อนก่อน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด “Reserve Time” ที่ให้อิสระกับแขกที่อยากจะเข้าพัก หรืออยากจะรับประทานอาหารเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เรารู้สึกอยากสำรวจบรรยากาศรอบๆก่อนสักนิด ก็เลยตัดสินใจไปนั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆที่ Pool Bar และเสพพลังทะเลยามเช้าของสมุยในวันอากาศดีเช่นวันนี้


ระหว่างที่เรานั่งปล่อยอารมณ์จิบเครื่องดื่มอยู่ริมทะเล ทีมมาร์เก็ตติ้งของโรงแรมที่นำโดยคุณการ์ตูน คุณเคเค และคุณแน็ตตี้ก็ได้เข้ามาดูแล และเล่าให้ฟังถึงความตั้งใจปั้นแบรนด์ Centara Reserve ที่นอกจากจะทุ่มทุนถึง 1,200 ล้านบาทในการ Revamp อาคารสถานที่ใหม่ทั้งหมดแล้ว ทีมบริหารในทุกแผนกก็ฟอร์มขึ้นมาใหม่ทั้งทีมด้วยเช่นกัน โดยเป็นการรวมตัวของบุคลากรที่มีประสบการณ์ระดับ Top-Tier ทั้งจากในและต่างประเทศ เพื่อฉีกขนบ Centara เดิมและส่งมอบประสบการณ์แบบ Reserve ที่แตกต่างให้กับแขกที่เข้าพักอย่างแท้จริง


 

Reserve Pool Suite

นี่คือห้องพักที่ทางโรงแรมจัดมาเพื่อรับรองระหว่างรอเข้าห้องพักจริงๆของเรา เราจึงถือโอกาสถ่ายรูปมาฝากเพื่อนๆด้วยเลย นี่ไม่ใช่ห้องพักธรรมดานะครับ แต่เป็นห้องที่ตกแต่งสวยงาม เครื่องใช้ครบ มีพื้นที่ถึง 67 ตร.ม.เชียว และที่สำคัญคือมีสระส่วนตัวด้วย Centara Reserve สร้างความประทับใจให้เราไม่หยุดเลยนะครับ


ไหนๆก็มาแวะชมห้องอื่นแล้ว เราก็ขอเล่ารายละเอียดห้องพักโดยรวมของที่นี่ไปเลยก็แล้วกันครับ Centara Reserve Samui มีห้องพักทั้งหมด 184 ห้อง แบ่งเป็น 13 Room Types มีพื้นที่ตั้งแต่ 40 - 501 ตร.ม. โดยมี Rare Item เป็นวิลล่าซึ่งมีเพียง 3 หลังเท่านั้นจึงต้องจองล่วงหน้ากันเป็นพิเศษ และแน่นอนครับห้องพักจริงๆของเราในวันนี้ก็คือวิลล่า 1 ใน 3 หลังนั้น ถือว่าเราโชคดีจริงๆครับ


 

Our Villa: Reserve Pool Villa

แอ่น...แอน...แอ๊นนนน และนี่ก็คือวิลล่าของเราครับ เปิดเข้ามาครั้งแรกตกใจกับความมหึมามาก เหมือนกับได้บ้านทั้งหลังเป็นของเราเลย น้องมีขนาด 256 ตร.ม. โรงแรมอนุญาตให้รองรับผู้ใหญ่ได้ 3 คน หรือจะเป็นผู้ใหญ่ 2 + เด็ก 2 ก็ได้เช่นกัน ต่อให้มากกว่านี้ก็ยังเหลือพื้นที่แบบหลวมๆเลยล่ะ


เราไปดูโซนเอ้าท์ดอร์กันก่อนนะครับ เริ่มด้วยสระน้ำเกลือส่วนตัวลุคโมเดิร์นเชียว โซน Patio ขนาดใหญ่ก็มีให้ทั้งโต๊ะ ชุดโซฟานั่งเล่น และ Kitchen Bench พร้อมอ่างล้างมือนั้นก็ใช้เตรียมอาหารว่างง่ายๆที่ไม่ต้อง Cooking ได้เลยครับ ริมสระน้ำมีเก้าอี้อาบแดดเพิ่มให้อีก 2 ตัว และด้านหลังวิลล่ามี Ourdoor Shower สำหรับล้างตัวเมื่อขึ้นจากสระหรือทะเล (Villa ของเราอยู่แทบจะติดกับทะเลเลยครับ) ล้างตัวเสร็จแล้วก็สามารถเดินเข้าห้องน้ำจากด้านหลัง Villa ได้เลย


ส่วนด้านในห้องนั้นเป็น Space ที่เปิดทะลุถึงกันได้หมด ทำให้ดูโล่งต่อเนื่องเป็นหนึ่งเดียว โซนห้องน้ำสามารถเลื่อนประตูมาปิดเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้นะครับ นอกจากพื้นที่จะดูโอ่โถงแล้ว เฟอร์นิเจอร์ก็มีขนาดใหญ่พิเศษเช่นกันทำให้รู้สึกแกรนด์มาก เตียงเป็นขนาด Super King Size ส่วนชุดรับแขกน่าจะนั่งได้ 4-5 คนสบายๆ

ที่โดดเด่นมากๆก็คืออ่างอาบน้ำทรงกลมไซส์เบ้อเริ่มเทิ่มสามารถลงไปนอนแช่พร้อมกัน 2 คนได้เหลือๆ อ่างล้างหน้าแยกเป็น 2 เซ็ตอยู่คนละฝั่งกันไปเลย ที่ผนังฟากหนึ่งเป็น Dressing Area มีพื้นที่ให้วางกระเป๋าและแขวนเสื้อผ้าสัมภาระต่างๆ รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกจากโรงแรมไม่ว่าจะเป็นเสื้อคลุมที่มีทั้งแบบหนาและบาง รองเท้าแตะ กระเป๋า และถุงผ้า ตรงนี้มีม่านที่สามารถรูดมาบังความรกตาได้ ข้างๆกันยังมีตู้เสื้อผ้าแยกต่างหากพร้อมกับ Safety Box ให้อีกด้วย


ห้อง Shower มีทั้งฝักบัวแบบสายและแบบ Rain Shower ที่น้ำไหลซู่ใหญ่ๆลงมาสะใจดีเหลือเกินแถมยังเส้นน้ำก็ละเอียดนุ่มสบายผิวมากๆ เหมือนได้นวดคลายเครียดไปในตัว เราชอบปุ่มคอนโทรลแบบกดปุ๊บน้ำไหลปั๊บไม่ต้องบิดหมุน ง่ายๆก็คือเรามีความสุขกับการอาบน้ำที่นี่มากครับ อาบได้วันละหลายๆรอบเลย

อีกห้องเป็นห้องขับถ่าย มีชักโครกอัตโนมัติพร้อมฝารองนั่งที่อุ่นกำลังดี รีโมทคอนโทรลชักโครกเป็นแบบ Touch Screen ที่สามารถดึงออกมาจากแป้นยึดที่ผนังได้ด้วย

ข้ามมาอีกฟากของห้องก็จะเป็น All Inclusive Minibar ที่ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม และมาเติมให้ทุกวัน ที่เกินคาดก็คือมีเครื่องดื่มแอลกอฮอลทั้ง Vodka, Whisky และ Gin ใส่ขวดแก้วพร้อมอุปกรณ์ชง Cocktail แบบครบมือเตรียมไว้ให้ด้วย ที่นี่ปลอดการใช้พลาสติก 100% ภาชนะทุกอย่างสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ แม้แต่ขวดน้ำแบบ Sparkling ก็เช่นกัน ที่เก๋ก็คือมีสเปรย์ฉีดหน้ากลิ่นส้มออร์แกนิคแบบเดียวกับผ้าเย็นตอนเช็คอินไว้ให้พ่นเพื่อความสดชื่นด้วย ถัดจาก Minibar ก็คือเตียง Day Bed ที่ใหญ่โตประมาณเตียง King Size เห็นจะได้ นอนเล่น-นอนจริงได้หมดเลย


ทั้งหมดนี้ถูกห่อไว้ในการดีไซน์ที่สวยงาม และการจัดวางที่ลงตัว เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นมีรายละเอียดที่น่าสนใจ มีเอกลักษณ์หลายแบบหลากรูปทรงทั้งที่อยู่ในห้อง และที่กระจายอยู่ทั่วโรงแรม แต่ล้วนเล่าเรื่องไปในทางเดียวกันทั้งหมด เราปลื้มงานโคมไฟที่สั่งทำเฉพาะของโรงแรมมากๆครับ นอกจากความสวยงามแล้ว เรื่องประโยชน์ใช้สอยก็ทำได้ดีมากเช่นกัน แม้แต่เรื่องที่เหมือนจะเล็กน้อยอย่างระบบควบคุมแสงไฟและผ้าม่านก็ใช้งานง่ายและทันสมัยมากครับ

 

Sunday Brunch By The Beach At Salt Society

Salt Society เป็นหนึ่งใน F&B Outlet ที่เป็นที่นิยมที่สุดของโรงแรม ด้วยทำเลติดหาดและบรรยากาศที่เปี่ยมรสนิยม Vibe ของที่นี่คือ Beach Bar ที่ทั้งชิลล์และ Sophisticated ไปพร้อมๆกัน ทุกๆวันอาทิตย์ Salt Society จะยิ่ง Popular และคึกคักมากเป็นพิเศษ เพราะมี Sunday Brunch Buffet ที่จัดเต็มในเรื่องวัตถุดิบพรีเมี่ยมแบบไม่อั้น ตั้งแต่ กุ้งลายเสือที่ตัวใหญ่กว่าฝ่ามือซะอีก เนื้อวากิวย่างหอมไฟความสุกกำลังดี หอยนางรม Fin De Claire No.2 อวบๆ ฟัวกราส์ที่คัดเกรดมาอย่างดี Serrano Ham นำเข้าทั้งขาจากสเปน ไปจนถึงอาหารที่เราคุ้นเคยอื่นๆอย่างพาสต้า เนื้ออบ ชีสนานาชนิด ขนมหวานล้านแปด และเครื่องดื่มทั้งผสมและไม่ผสมแอลกอฮอล เรียกได้ว่าเตรียมท้องไปเท่าไหร่ก็จุความอร่อยไม่หมดแน่นอนครับ

Sunday Brunch ที่นี่มี Package ให้เลือกตามความต้องการของเราถึง 3 แบบมีชื่อเรียกชิคๆว่า Vitamin A, Vitamin B และ Vitamin Sea เริ่มต้นที่ THB 1,890++ ต่อคน ก่อนเริ่มมื้อยังมีการแจก Vitamin C Shot เพิ่มภูมิต้านไวรัสอีกด้วย เค้าคิดมาหมดแล้วจริงๆครับ


นอกจากนี้ยังมีการแจมดนตรีสด (วันที่เราไปเป็น Saxophone สัปดาห์ก่อนหน้าเป็น Violin) กับ Playlist ที่คัดสรรมาโดยดีเจระดับโลกอีกด้วย ห้องอาหารแต่ละห้องของ Centara Reserve Samui จะมี Playlist พิเศษเป็นของตัวเอง แต่สำหรับ Playlist ของ Salt Socirty เราก็สามารถเข้าไปเปิดฟังได้ใน Spotify ด้วยนะครับ เสียงดนตรีทำให้มู้ด Sunday Brunch ยิ่งสนุกคึกครื้นแบบทวีคูณเลย


อาหารทั้งหมดของที่นี่ จะถูกแบ่งเสิร์ฟใน Cube (ห้อง) ทั้ง 4 ดังนี้

Ice Cube เสิร์ฟ Seafood ที่วางบนน้ำแข็ง

Hot Cube เสิร์ฟเนื้อสัตว์ที่อบจากเตา

Chill Cube เป็นโซนที่นั่งสบายๆใกล้กับ BBQ และ Cooking Stations อื่นๆ

Cold Cube เสิร์ฟของหวาน เบเกอรี่ ชีส และผลไม้

อย่าลืมออร์เดอร์ Mr. Smoky ให้มาทำการแสดงชง Sangria แบบควันท่วมที่โต๊ะด้วยนะครับ

มื้อนี้มีคำว่า "คุ้มค่า" เปรี้ยงเข้ามาในหัวของเราดังๆ เพราะเต็มอิ่มทุกประสาทสัมผัส อร่อยลิ้น ละลานตา เสนาะหู เพลินจมูก สบายกาย อิ่มเอมใจ อ่อ..แถมอีกอัน แน่นพุงด้วยครับ ฮ่าๆๆๆ

 

A Digestive Walk Around The Property

หลังจากมื้อใหญ่เบิ้มขนาดนี้ การเดินย่อยจึงเป็นไฟลท์บังคับไปโดยปริยาย วันนี้อากาศปลอดโปร่งเป็นใจเหลือเกิน ถ่ายมุมไหนก็สวยไปหมด เราขอพาไปทำความรู้จักกับรีสอร์ทในภาพรวมกันก่อนนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาไปเจาะลึกแต่ละโซนกันต่อ

หากเรายึดเอา Lobby เป็นจุดศูนย์กลางแล้วหันหน้าไปทางทะเล ทางปีกขวาของโรงแรมนั้นจะเป็นฝั่งที่เน้นกิจกรรม ความสนุก ครื้นเครง เป็นที่ตั้งของ Salt Society, Kids’ Zone สระว่ายน้ำหลัก Pool Bar และอุปกรณ์กิจกรรมทางน้ำที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้

ส่วนปีกซ้ายจะเป็นโซนห้องพักที่เน้นความเป็นส่วนตัว เอาไว้พักผ่อนแบบเงียบๆ และจะมีสระว่ายน้ำอีกแห่งที่สงวนเอาไว้ให้กับผู้ใหญ่ที่ต้องการความสงบโดยเฉพาะ


เมื่อสักครู่เราเต็มอิ่มกับปีกแห่งความบันเทิงมาแล้ว ตอนนี้ก็เลยอยากวาร์ปตัวเองสู่ปีกแห่งความไพรเวทกันบ้างครับ


Afternoon Dip At The Adults’ Pool

อีกหนึ่ง Trick ที่ช่วยเร่งการย่อยอาหารของเราก็คือการว่ายน้ำครับ ตอนแรกกะจะกลับไปว่ายน้ำใน Private Pool ที่วิลล่าของเรา แต่พอเดินผ่านสระ Adults’ Pool ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า และเป็น Infinity Pool ที่มีผนังใสสามารถมองเห็นเราตอนดำน้ำได้ด้วย ก็เลยเปลี่ยนใจมาลงสระนี้แทน ทุกสระใน Centara Reserve Samui เป็นสระน้ำเกลือถนอมผิวนะครับ คนที่แพ้คลอรีนสบายใจได้เลย ระหว่างที่อยู่สระผู้ใหญ่นี้เราก็สามารถสั่งเครื่องดื่มกับพนักงานมาดับกระหายได้เหมือนที่สระหลักเลย สะดวกกายสบายใจดีจังครับ


 

The Gin Run

เมื่อท้องฟ้าเริ่มถูกฉาบด้วยแสงสีทองของตะวันใกล้ตกดิน ก็จวนเวลามื้อค่ำ(อีก)แล้ว ฮ่าๆ แต่เรามีแพลนไปดื่ม Pre-Dinner Cocktail ที่บาร์ The Gin Run กันก่อน จากชื่อแล้วแน่นอนว่าพระเอกของบาร์แห่งนี้ก็คือ Gin เจ้าสปิริต (สุราที่ได้จากการกลั่น) สีใสหอมฟุ้งด้วยกลิ่น Juniper Berry นั่นเอง


นอกจากที่นี่จะมี Gin ยี่ห้อ Niche ต่างๆจากทั่วโลก รวมถึง Small Batch Gin เกรดพรีเมี่ยมของไทยด้วยแล้ว ทางบาร์ยังทำการ Infuse กลิ่น Botanicals อื่นๆขึ้นเองเพื่อครีเอทเป็น Gin กลิ่นใหม่ๆไว้ให้ลูกค้าลิ้มลองกว่า 35 กลิ่น โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักๆก็คือกลิ่นโทน Fruity & Floral กับกลิ่นโทน Herb & Spice เราชอบกลิ่น Rose และ Little Basil (ใบแมงลัก) เป็นพิเศษ แต่ก็ยังมีอีกหลายกลิ่นที่น่าสนใจมากๆ เช่น ทับทิม บีทรูท ไธม์ ผักชี กรีนโอลีฟ วาซาบิ ฯลฯ ถ้าชิมครบเราคงเมาจนต้อง Skip ดินเนอร์ไปเลย

นอกจาก Gin แล้ว บาร์แห่งนี้ก็ยังมีเมนูเครื่องดื่มอื่นๆทั้งแบบที่มีและไม่มีแอลกอฮอลซึ่งทางทีมตั้งใจคัดสรรและรังสรรค์มาอย่างดีเพื่อให้ทุกคนได้ Enjoy กันด้วย แต่สิ่งที่ทำให้ประสบการณ์ Pre-Dinner Cocktail ของเราน่าจดจำกลับอยู่ที่ตัวบาร์เทนเดอร์ครับ เราสัมผัสถึง Passion และความ Cultured ใน Gin ของ คุณเคน บาร์เทนเดอร์คนเก่งของเราได้อย่างชัดเจน หลังจากชงเครื่องดื่มหอมอร่อยให้เราดื่มแล้ว คุณเคนก็ยังเล่าประวัติศาสตร์และอธิบายเกร็ดเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ Gin ที่เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยให้เราฟังอีกด้วย แม้ Gin จะไม่ได้เป็นวัฒนธรรมท้องถิ่น แต่ความรู้ลึกของคุณเคน ก็ทำให้เรารู้สึกว่ากำลังได้สัมผัสประสบการณ์ Reserve Culture และ Reserve Touch ไปพร้อมๆกัน


 

Sa-Nga: Contemporary Thai Tapas

ดินเนอร์ของเรามื้อนี้เป็นอาหารไทยร่วมสมัยที่ถูกจับแยก Elements แล้วนำมาตีความใหม่ จากนั้นจึงนำมาประกอบร่างขึ้นอีกครั้งจนเกิดเป็นรสชาติและหน้าตาที่น่าประทับใจไม่ซ้ำใคร นี่คงจะเป็นวิถี “Reserve Culture” ซึ่งช่วยเชื่อมรอยต่อของวัฒนธรรมท้องถิ่นกับความเป็นสากล นับเป็นการก้าวสู่ยุคใหม่โดยที่ยังให้ความเคารพต่อรากเหง้าเดิมอย่างสร้างสรรค์

ความดีงามในงานด้านอาหารของทุก Outlet ใน Centara Reserve Samui รวมถึงที่ร้าน “สง่า” แห่งนี้นั้น อาจจะต้องยกเครดิตให้กับเชฟ Christopher John Patzold เชฟใหญ่สัญชาติ Australia ที่มีประสบการณ์การทำงานในโรงแรมหรูระดับท็อปๆทั่วโลกมากว่า 30 ปี เชฟและทีมของเขาทำให้ซีน Gastronomy ของโรงแรมแห่งนี้นั้นโดดเด่นและเป็นที่ตั้งตาคอยของบรรดานักชิมกันอย่างมาก

เกริ่นมาพอสมควร เราขอพุ่งตัวเข้าเรื่องอาหารกันเลยก็แล้วกันครับ ฮ่าๆๆ ตัวเลือกในเมนูของสง่าต่างก็แข่งขันกันแย่งความสนใจของเรา และด้วยความที่อาหารเป็นไซส์ Tapas ไม่ใหญ่มาก เราจึงถือโอกาสเลือกมาชิมหลายๆอย่าง ได้แก่

Mini Magnum แซลม่อนเสียบไม้ย่างสมุนไพรหน้าตาคล้ายแท่งไอศกรีมที่เราคุ้นเคย

Scallop Red Curry หอยเชลล์เนื้อหวานในเครื่องแกงรสนุ่มและครีมมี่ด้วยพูเร่ฟักทองญี่ปุ่น

Squid หมึกสดย่างต้มกะทิใส่ยอดมะขาม

Wagyu Beef Salad เสิร์ฟมาบนเตาย่างจิ๋วที่หอมควันฉุย ทานคู่กับสลัดแตงกวา

Seabass Mango Salad ปลากะพงย่างกับสลัดมะม่วงดิบ

Shrimp Cake ห่อหมกกุ้งคลุกเครื่องแกงและผักดอง


ต้องยอมรับจริงๆว่ามื้อนี้อร่อยเกินคาดมากครับ ตอนแรกแอบเคลือบแคลงเล็กน้อยว่าอาหารไทยประยุกต์อาจจะไม่ถูกปากเรา แต่หลังจากที่ลองแล้วเราต่างเห็นตรงกันว่าเป็นอีกมื้อที่ทำให้ใจฟูมาก รสชาติทุกจานนั้นกลมพอดี รู้สึกถึงความละเมียดละไมในการปรุงได้เลย


กินของคาวเสร็จแล้ว ก็ต้องปิดด้วยของหวานจึงจะครบสูตร เราสั่งขนมหวานมา 3 อย่าง โดยที่ทุกอย่างนั้น Based มาจากขนมไทยที่เราคุณเคย แต่ถูกรื้อหน้าตาใหม่หมดจนเราเดาไม่ถูกเลย

เริ่มต้นกันด้วยกล้วยบวชชี ที่หน้าตาอินเตอร์ไม่เหลือเค้าเดิม สูตรของสง่านั้นใช้กล้วยหอมแทนกล้วยน้ำว้า รสชาติจึงมีความ Banoffee ปนอยู่ด้วย

จานที่ 2 เป็น Mango Sticky Rice ที่ต้องใช้ช้อนเคาะผิวลูกมะม่วงจำลองด้านบนให้แตกก่อนแล้วจึงจะตักกินได้ง่ายขึ้น ด้านในเป็นมูสพร้อมซอสมะม่วงไหลเยิ้ม

และจานสุดท้ายนี่น่าจะเดารสชาติยากที่สุด น้องมี Inspiration มาจากหม้อแกงเผือก แต่ถูกเปลี่ยนหน้าตาให้กลายเป็นก้อนหินสีม่วงลง Shimmer เงางาม แต่ด้านในองค์ประกอบของหม้อแกงมาครบนะครับ ไม่เว้นแม้แต่หอมเจียว


ใครติดตามเพจ hoparound.co เป็นประจำก็คงจะพอเดาออกว่าหลังจากมื้อหนักๆแบบนี้ เรามักจะสั่ง Peppermint Tea มาจิบเพื่อความสบายท้อง มื้อนี้ก็เช่นกันครับ เพียงแต่ที่นี่มีความพิเศษนิดนึงเพราะเป็น Moroccan Mint เชียวนะ

 

Turn Down

เรากลับมาที่ Villa และพบกับห้องที่ได้รับการ Turn Down พร้อมสำหรับการนอนเรียบร้อย บนโต๊ะรับแขกมีจานขนมรูปน้องเห็ดน่ารักมาก แถมอร่อยด้วย แม้จะท้องยังแน่น หากให้กินหมดก็คงไม่ไหว แต่ใจของเราก็อิ่มเอมตั้งแต่ได้เสพด้วยสายตาแล้ว


ตลอดทั้งวันนี้ เรายังไม่ค่อยได้พักผ่อนที่ Villa ของเราเลย ยังไงคืนนี้เราขอใช้เวลาที่เหลือชิลล์อยู่ในบ้านชั่วคราวหลังนี้ของเรากันสักหน่อย ขออนุญาต Good Night ไปก่อนครับ พบกันใหม่พรุ่งนี้เช้า ถ้าตื่นทันจะพาไปชมพระอาทิตย์ขึ้นงามๆที่ทะเลนะครับ


 

Good Morning!

อรุณสวัสดิ์ครับ ตอนแรกเราแอบแพลนกันว่าจะได้ตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นเพราะทะเลของเราอยู่ทิศตะวันออกพอดี แต่เตียงที่ Centara Reserve Samui นอนสบายมากจนเราเผลอหลับยาวไปหน่อย ตื่นมาอีกทีก็ 9 โมงกว่าแล้ว เลยต้องรีบล้างหน้าล้างตาไปกินบุฟเฟ่ต์มื้อเช้ากัน

อาหารเช้าที่นี่เสิร์ฟที่ห้องอาหาร The Terrace เป็นหลัก แต่ก็กินบริเวณไปถึงห้องอาหาร Act 5 ที่อยู่ข้างๆกันด้วย มีทั้งแบบบริการตัวเองและสั่งเป็น A La Carte ซึ่งสั่งเพิ่มได้ตามต้องการ และหากตื่นไม่ทันการเสิร์ฟบุฟเฟต์ ห้องอาหาร The Terrace ก็พร้อมเสิร์ฟอาหารเช้าตามสั่งได้ตลอดทั้งวันตามคอนเส็ปต์ Reserve Time ที่ให้อิสระเรื่องเวลากับแขกอย่างมาก

แน่นอนว่าไลน์อาหารในบุฟเฟต์นั้นหลากหลายไม่แพ้ใคร ทั้งเมนูไข่ที่เลือกวิธีการปรุงได้แทบทุกแบบ สามารถเลือกระดับความสุกได้จนถึงหลักนาทีที่ใช้ในการต้มไข่ ส่วนไส้กรอกหมู-ไก่ เบค่อนก็วางกองให้คีบใส่จานได้รัวๆ เมนูโคลด์คัท สลัด ชีส และผลไม้ก็ตักได้ไม่อั้น ที่แผนกเบเกอรี่ก็มีทั้งเพสตรี้ และขนมปังหลากชนิด รวมถึงแบบ Gluten Free ด้วย


ในตู้เย็นก็มีน้ำผลไม้ โยเกิร์ต และนมให้เลือกทั้ง Full Fat, Fat-Free, Lactose-Free ไปจนถึงนมทางเลือกอย่าง Soy Milk และ Almond Milk เราชอบเนยเค็มแบรนด์ Echire ที่โรงแรมจัดไว้ให้หยิบได้ตามใจชอบมากเลยครับ อร่อยจนเผลอปาดหนาไปหน่อยจนรู้สึกผิดเลย


ตรงโซน Condiments นั้นมีตัวเลือกปลีกย่อยมากมายไม่ว่าจะเป็นแยมหลากหลายรส (ทางโรงแรมกวนเอง) น้ำผึ้งที่มาทั้งรวง เนยถั่วและธัญพืชต่างๆ แต่สิ่งที่เตะตาเราก็คือ Micro Donut และ Micro Croissant ตัวเล็กจิ๋ว พนักงานแอบกระซิบว่าเป็นไอเท่มลับของมื้อเช้าที่นี่เลย โดยเฉพาะ Micro Croissant ที่ใช้เวลาทำหลายวันกว่าจะเสร็จ ทานกับนมต่างซีเรียลก็อร่อยอย่าบอกใคร

Micro Donut และ Micro Croissant

Hot Cappuccino With Our Face Printed On The Milk Froth


ตักอาหารเสร็จเรียบร้อย เราจึงกลับมาที่โต๊ะและพบกว่าอยู่ๆก็มี Cappuccino ร้อนที่พิมพ์หน้าเราบนฟองนมมาเซอร์ไพร้ซ์ให้ด้วยครับ โรงแรมนี้ขยันสร้างความประทับใจให้เราทุกช็อตเลยจริงๆ


แม้จะเริ่มอิ่มแล้ว แต่เราก็ยังอยากสั่งเมนู A La Carte อื่นๆมาทดลองและถ่ายรูปฝากเพื่อนๆอีกหลายอย่างทั้ง Banana Split Jar Smashed Avocado และทีเด็ดก็คือ Minute Wagyu Steak ใช่แล้วครับมื้อเช้าที่นี่เราสามารถสั่งเนื้อ Wagyu มากินได้ตามใจเลย

Minute Wagyu Steak


 

Soaking In The Main Pool

เมื่อวานเราไปลงสระผู้ใหญ่โซนสงบกันมาแล้ว วันนี้เราจะพาเพื่อนๆมาชมสระว่ายน้ำหลักของโรงแรมกันบ้าง สระฟรีฟอร์มสีฟ้าอ่อนแห่งนี้ถูกแบ่งเป็น 2 สระย่อย มีทางเดินรันเวย์แบ่งตรงกลาง ทีมดีไซน์ยังคงรักษาเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของ Centara Grand แต่เดิมเอาไว้ นั่นก็คือรูปทรงของสระส่วนที่เป็น Jacuzzi ซึ่งมีความโค้งมนคล้ายลายไทยอันเป็นกลิ่นอายเดิมของความเป็น Centara


ความพิเศษอีกอย่างของ Main Pools ก็คือ Pool Bar (ที่เรามานั่งจิบน้ำรอห้องพักในวันแรก) ถ้าเราอยู่ในสระก็สามารถนั่งเกาะบาร์และสั่งเครื่องดื่มมาดับกระหายในขณะที่แช่น้ำได้เลย


ที่ Main Pools นี้ต้อนรับเด็กนะครับ และเป็นทำเลที่ลงตัวสำหรับเด็กๆมากเนื่องจากอยู่ติดกันกับ Kids’ Zone ซึ่งเป็นลานพื้นนุ่มที่มีน้ำพุให้เด็กวิ่งเล่นได้อย่างสบายใจ พร้อมห้องเล่นเด็กที่มีอุปกรณ์ต่างๆครบเลย แอบกระซิบนิดนึงว่า Kids’ Zone เป็นเขตปลอดเทคโนโลยีจำพวกมือถือและไอแพดนะครับ เพราะทางโรงแรมอยากให้เด็กๆได้พักจากการจ้องหน้าจอ และมี Physical Activities กันบ้าง


 

Reserve Spa Cenvaree

หลังจากที่ได้พลิกโฉมโรงแรมให้มาอยู่ในสถานะ Reserve เมนูทรีตเม้นต์ทั้งหมดก็ได้รับการออกแบบใหม่ให้แตกต่างด้วยเช่นกัน ซึ่งมีช้อยส์ที่น่าสนใจหลายอันจนเลือกไม่ถูกเลยล่ะครับ เราจึงขอให้พนักงานสปาช่วยแนะนำซัก 2 ช้อยส์


อันแรกเป็นการนวดด้วยน้ำมันมะพร้าวอุ่นๆและรีดกล้ามเนื้อด้วยกะลาผิวเรียบใบเล็กๆ ก่อนจะลงไปแช่อ่างที่ผสม Coconut Milk เพื่อความนุ่มละมุนของผิว อีกตัวเลือกหนึ่งที่แนะนำก็คือการขัดผิวด้วย Bamboo Body Scrub แล้วใช้ท่อนไม้ไผ่คลึงรีดเส้นและกดจุดแบบ Shiatsu เพื่อคลายความตึงเครียด และสร้างสมดุลทางอารมณ์


นอกจากการนวดบำบัดที่น่าสนใจแล้วที่ Reserve Spa Cenvaree ยังมีโปรแกรมเสริมความงามสำหรับทั้งผู้หญิงและผู้ชายในส่วนใบหน้าและเล็บด้วย ส่วน Facilities อื่นๆไม่ว่าจะเป็นห้อง Steam, Sauna และ Jacuzzi ก็มีให้บริการครบเช่นกัน


แต่สิ่งที่เราปลื้มมากๆกลับอยู่ติดกันกับสปา นั่นก็คือสวนสมุนไพรออร์แกนิคที่เราสามารถเข้าไปเลือกเก็บจากต้นแล้วนำไปทำทรีตเม้นต์กันแบบสดๆได้เลย นับเป็นอีกหนึ่งการเชื่อมโยงพลังบำบัดจากภูมิปัญญาไทยให้แขกได้ Experience ตามคอนเส็ปต์ Reserve Culture ของแบรนด์


จะว่าไปแล้วพื้นที่สีเขียวของ Centara Reserve Samui นั้นมีกว้างใหญ่เหลือเฟือมาก เราสังเกตว่าทีมทำสวนต้องลงงานกันตลอดเวลา อย่างน้อยก็ต้องตัดหญ้ากันทุกวัน โดยหญ้าที่ถูกตัดไปนั้นทางโรงแรมจะนำไปผ่านกระบวนการแปรรูปให้เป็นก๊าซหุงต้มเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป นอกจากจะหรูหราแล้ว ที่นี่ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนอีกด้วย


 

Fitness Center

การออกกำลังกายสำหรับหลายๆคนก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของการผ่อนคลาย และที่ Fitness Center ของ Centara Reserve Samui นั้นต้องบอกว่าอุปกรณ์ครบและทันสมัยสุดๆไปเลย ขนาดเราที่ไม่ได้เป็นสาย Gym โดยตรง ยังรู้สึกอยาก Exercise ตอนที่มาเยี่ยมชมเลยครับ เมื่อออกกำลังจนเหนื่อยล้าแล้ว ในห้องนี้ก็ยังมีมุม Healthy Snacks & Refreshments เตรียมไว้ให้บริการโดยไม่คิดเงินเพิ่มด้วย มี Infused Water ด้วยนะครับ ใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆเลย


ส่วนสายโยคะ หากไม่สะดวกปูเสื่อทำ Session ริมทะเล ที่นี่มีห้อง Yoga Studio โดยเฉพาะเพื่อความเป็นส่วนตัวให้ด้วยเช่นกัน ตอบทุกความต้องการเลย


สำหรับห้องน้ำนั้นก็สะอาดอะอ้านน่าใช้ไม่แพ้ด้านนอก มีให้ครบทั้งล็อคเกอร์ ห้องออกน้ำ และห้อง Steam เอาเข้าจริงๆ โซนออกกำลังกายนี้ก็แอบเป็นมุมโปรดลับๆของเราเหมือนกันนะครับ


 

Surprise Of The day!

พาไปสำรวจรีสอร์ทจนเริ่มเหนื่อยแล้ว เราเลยกลับมาชิลล์กันต่อที่วิลล่าของเรา ถ้าเราไม่มีแพลนอื่นๆ เราก็ไม่มายด์ที่จะใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนอยู่ในวิลล่าเลยครับ เพราะทั้งบรรยากาศที่โปร่งสบาย และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันนั้นก็ตอบแทบทุกโจทย์ที่เรามี แม้กระทั่งหากเราต้องการ Surprise ก็สามารถกดปุ่มที่โทรศัพท์ได้วันละครั้ง แล้วพนักงานก็จะนำเอาของเล็กๆน้อยๆมาให้ถึงที่เลย วันนี้เราได้เป็น Raspberry Jelly Candy ที่หอมหวาน เป็นอีกหนึ่งการบริการแบบ Reserve Touch ที่เราขอชื่นชมจากใจครับ


Making The Most Of Our Beloved Villa

ไม่ว่าด้านนอกจะหรูหราเลิศเลอเพียงใด ช่วงเวลาส่วนตัวที่เราใช้ในห้องของเราก็ยังคงเป็นสิ่งที่เราอยากจะ Enjoy ที่สุดในการเข้าพักรีสอร์ท/โรงแรมไม่ว่าจะที่ใด และในเมื่อ Villa ของเรานั้นดีงามเบอร์นี้ เราจึงอยากจะใช้ประโยชน์จากเค้าให้คุ้มค่าทุกตารางเมตรเลยครับ


สระของเรานั้นขนาดกำลังดี ลงเล่นเพลินมากๆ จะกระโดดลงน้ำหรือจะปีนขึ้นมานอนอาบแดดกี่รอบก็ไม่ต้องเกรงใจใครเลย หรือจะโพสท่าถ่ายภาพจน Memory Card เต็มกี่ใบก็ไม่ต้องกลัวใครมาตัดสิน ยกเว้นเรากันเอง ฮ่าๆๆ เล่นน้ำจนหนำใจแล้ว จะเดินไปล้างตัวด้านหลังวิลล่าก็สะดวกมากๆ


เราแปลงโต๊ะนั่งเล่นตรง Patio ริมสระให้เป็นโต๊ะทำงานชั่วคราว ก็ได้ฟีลผ่อนคลายไปอีกแบบ เครื่องดื่มจากมินิบาร์ก็หยิบมาจิบแกล้มงานได้เรื่อยๆ หากรู้สึกครึ้มอกครึ้มใจจะผสมค็อกเทลดื่มเองก็ไม่มีใครว่า

ที่ Day Bed และโซฟาเราก็นั่งเอกเขนกเล่น iPad อ่านหนังสือ เมื่อยก็ทิ้งตัวลงนอนปล่อยความขี้เกียจให้ออกมาเพ่นพ่านได้เต็มที่ จนบางครั้งเผลอหลับไปก็มี


ห้องน้ำเป็นอีกโซนที่เราชอบมากๆ ฝักบัวในห้องชาวเวอร์นั้นยอดเยี่ยมเกินบรรยายอาบสบายเกินพรรณนา แต่คืนนี้เราจะก้าวข้ามไปอีกขั้น เพราะเราตั้งใจจะลงไปแช่ในอ่างอาบน้ำขนาดมหึมาที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้องล่อตาล่อใจเราตั้งแต่เช็คอิน


แม้ว่าเราจะตกหลุมรักวิลล่าหลังนี้ตั้งแต่แรกพบ แต่เมื่อยิ่งได้ทำความรู้จัก ก็ยิ่งตกหลุมรักหนักขึ้น ประสบการณ์ที่ลื่นไหลและความสะดวกสบายทั้งหมดที่น้องมอบให้ เป็นสิ่งที่ทำให้แนวคิด Reserve Space กลายเป็นรูปธรรมที่เราสามารถสัมผัสได้อย่างแท้จริง


 

Let’s Hit The Beach!

แดดร่มลมตกพอสมควรแล้ว เราไปหาดกันดีกว่า เป็นที่รู้กันว่าหาดเฉวงนั้นเป็นหาดที่ทรายขาวนุ่มเท้าและสวยงามที่สุดบนเกาะสมุย น้ำทะเลสีฟ้าครามที่สะท้อนความสดใสของท้องฟ้าที่เปิดโล่งก็ต้อนรับเรามาตั้งแต่เข้าพัก เราแช่น้ำในสระมาจนหนำใจแล้ว ก็เลยเลือกที่จะเดินเล่นริมหาด และลองนั่งเรือใบกับพายเรือแคนูของทางโรงแรมดู


เสียดายที่วันนี้ในทะเลมีคลื่นพอสมควร เราจึงออกเรือยังไม่ทันไปได้ไกลก็ต้องวกกลับเข้าฝั่ง พายจริงไม่ได้ไม่เป็นไร แต่งานภาพต้องไม่พลาดครับ ฮ่าๆๆๆ


เริ่มหิวแล้วล่ะสิ เราไป Freshen Up กันซักนิด เตรียมตัวไปดินเนอร์มื้อสำคัญของทริปนี้กันดีกว่า เพราะเรามีนัด Fine Dining กันที่ Act 5 ห้องอาหาร Signature ของ Centara Reserve Samui


 

Sunset at Centara Reserve

ที่นี่พระอาทิตย์ตกก็สวยไปอีกแบบนะครับ เราชอบโมเมนต์ที่เดินปล่อยใจสบายๆ ในรีสอร์ตแล้วก็แหงนหน้ามองฟ้าสีลูกกวาดไปด้วย ลมทะเลก็โชยมาประทะหน้าเราเป็นระยะๆ เพลินดีจริงๆ


 

Fine Dining At ACT 5

คอนเส็ปต์ของ Act 5 นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากการแสดงละครที่แบ่งเป็นหลายๆองก์ เปรียบดั่งอาหารแต่ละคอร์สที่ทยอยเสิร์ฟเพื่อความสุนทรีย์สูงสุดของมื้อนั้นๆ และทุกๆจานที่ออกมาเสิร์ฟก็จะมีการแสดงบางอย่างที่เป็นทั้ง Gimmick และ Movement ที่น่าจดจำ


ที่ Act 5 จะมีเมนูพิเศษ 5 คอร์สที่ทางห้องอาหารภูมิใจนำเสนอ แต่หากเราสะดวกที่จะเลือกสั่งเองแบบ A La Carte ก็ได้เช่นกัน ตามคอนเส็ปต์การบริการแบบ Reserve Touch ที่ให้อิสระกับแขกอย่างเต็มที่ วันนี้เราจึงถือโอกาสทดลองเลือกสั่งเมนูที่อ่านแล้วกระตุ้น Appetite ของเรามากที่สุดเอาเองเลย แน่นอนว่าแต่ละจานก็จะมี Sommelier คอยแนะนำไวน์ที่จับคู่เพื่อเสริมรสชาติอาหารที่เราเลือกด้วย


เริ่มมื้อด้วย Zonin Prosecco สดชื่นที่ดื่มง่ายระหว่างที่เราดูเมนูเลือกอาหาร จากนั้นพนักงานก็เสิร์ฟขนมปังที่อร่อยมาก มีให้เลือก 3 ชนิดซึ่งมาพร้อมกับ Rocket Pesto Sauce และ Aiòli มายองเนสกระเทียมที่มาในหลอดบีบเล็กๆเป็นลูกเล่นที่น่ารัก



สำหรับคอร์สแรก เราเลือกมา 3 รายการ ได้แก่

Scallops รมควันมะพร้าว เคล้าเนยยูสุ และองุ่นเขียว เวลาเสิร์ฟพนักงานจะยกฝาครอบที่กักควันไว้ด้านในออก ทำให้ควันระเบิดฟุ้งไปทั่วเลย

Beef Short Ribs เนื้อซี่โครงที่ตุ๋นนานถึง 12 ชั่วโมงจนเปื่อยละลายในปาก พร้อมซอสหลากสี เสิร์ฟด้วยการพ่นสเปรย์ทองลงบนเนื้อที่โต๊ะอาหารของเรา

Fine De Claire หอยนางรมจากฝรั่งเศสพร้อม Heart Of Palm (คาดว่าน่าจะเป็นยอดมะพร้าว) และแตงโมที่ผ่านการควบแน่น เสิร์ฟพร้อมเปลวไฟในกาที่ราดลงมาด้านข้างจาน

เนื่องจากในคอร์สแรกเราสั่งอาหารทะเลถึง 2 จานและยังมี Amuse-Bouche ที่เป็นทูน่าปรุงรสหั่นเป็นลูกเต๋าขนาดพอดีคำด้วย ทาง Sommelier จึงเลือกไวน์ Chardonnay ที่มี Body กลางๆของ Chanson จากแคว้น Pouilly-Fuissé ฝรั่งเศสมาประกบคู่ให้ ซึ่งก็เสริมกับอาหารเป็นอย่างดีครับ

คอร์สที่ 2 เราสั่งอกเป็ดที่มาพร้อมกับครีมแอลมอนด์บด และผงน้ำมันมะกอก กับ Ribeye Wagyu เสิร์ฟพร้อมกับ Bone Marrow ทั้งสองจานทำมาสุกแบบ Medium Rosé ตามคำแนะนำของห้องอาหารครับ อร่อยถูกใจเลย แม้ส่วนผสมและวิธีปรุงน่าจะซับซ้อนอยู่พอตัว แต่รสชาตินั้นอร่อยเข้าใจง่ายจนแทบคิดว่าเป็น Comfort Food เลยทีเดียว

สำหรับ Wine Pairing นั้น แน่นอนว่าเนื้อสัตว์สีเข้มย่อมเหมาะกับไวน์แดง เรามัวแต่ Enjoy อาหารจึงไม่ทันได้ถ่ายฉลากเก็บไว้ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นไวน์ Merlot จากคาบสมุทร Médoc ในแคว้น Bordeaux ครับ เป็นไวน์ Full Body แต่รสนุ่มกลมกล่อม เข้ากันกับอาหารได้ดีมากครับ

ต่อด้วยของหวานกันดีกว่าครับ เราสั่งมา 2 จานคือ Raspberry Souffle ที่อบมาร้อนๆ พนักงานพาน้องมาที่โต๊ะเพื่อคว่ำออกจากพิมพ์ให้ลงไปนอนหนาวบนเตียงชาร์โคลเจลาโต้ จานนี้อร่อยง่ายครับ รสชาติเปรี้ยวหวานสดชื่นตัดเลี่ยนได้ดี

อีกจานเราขอลองของแปลกครับ น้องมีชื่อว่า Scotch Brite และหน้าตาก็ตามนั้นเลยครับเป็น Sponge Cake ที่ถูกแปลงโฉมให้เป็นฟองน้ำล้างจาน เสิร์ฟคู่กับสบู่สีม่วงที่ซ่อนเจลลาเวนเดอร์ไว้ข้างใน วางบนเนื้อเค้กสีเหลืองที่ดูเหมือนผ้าฟองน้ำเอนกประสงค์ เพิ่มความสมจริงด้วยโฟมแทนฟองสบู่และสเปรย์กลิ่นสบู่ที่พนักงานพกมาพ่นเพิ่มให้ตอนเสิร์ฟ น่าทึ่งกับความสมจริงมากๆจนสมองเราสับสนมองเส้นแบ่งระหว่างขนมหวานกับการล้างจานเบลอไปหมดเลย

มื้อนี้เราเปลี่ยนจากการตบท้ายด้วย Peppermint Tea เป็น Camomile เพื่อช่วยให้หลับสบาย และอีกกาเป็น ชาเชียว Jade Sword ซึ่งมีกลิ่นหอมและรสชาติ Nutty อ่อนๆก็ทำให้เราติดใจได้ไม่ยาก ก่อนกลับเชฟมีขนมเบาๆส่งท้ายด้วยเป็นช็อคโกแล็ตเสียบไม้ซึ่งช่วยคลายความ Formal ลงได้เยอะทีเดียวครับ

 

Night Tour Around The Property

เมื่อความมืดเข้าปกคลุม แสงดาวและแสงไฟของ Centara Reserve Samui ก็พากันส่องแสงระยิบระยับเลย ทำให้ได้อารมณ์ที่ทั้งโรแมนติคและดูขลังในบางมุมนั้นช่างแตกต่างออกไปจากช่วงกลางวันอย่างสิ้นเชิง การได้มาเดินชมรีสอร์ทในโมงยามนี้ ก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบครับ


 

Immersing In The Bubbles

ได้ฤกษ์ลงอ่างแล้วคร้าบบบบ! อย่างที่เห็นว่าอ่างอาบน้ำใหญ่สุดๆ แช่พร้อมกัน 2 คนได้สบายๆ แต่เราขอสลับแช่ทีละคนก็แล้วกัน เดี๋ยวไม่มีคนถ่ายรูป ฮ่าๆๆ พื้นที่ของอ่างทำให้เราสามารถเหยียดเท้าที่สุดและแช่น้ำได้นานโดยไม่เมื่อย แม้ขนาดจะใหญ่แต่เติมน้ำไม่นานก็เต็มครับ ทางโรงแรมมี Bath Salts และสบู่เหลวหอมๆเตรียมไว้ให้อยู่แล้ว แต่เราแอบหยอด Shower Gel ที่เตรียมมาเองเพื่อเพิ่มฟองนุ่มๆฟูๆด้วย

It’s Bed Time!

ไม่น่าเชื่อว่าในหนึ่งวันเราจะทำกิจกรรมต่างๆได้เยอะขนาดนี้ ถือเป็นอีกวันที่ Productive สุดๆ พรุ่งนี้เรามีนัดกับพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าตรู่ จึงต้องขอตัวรีบนอนก่อน เตียงขนาด Super King Size เริ่มส่งตาหวานเชื้อเชิญให้เราเข้าไปซุกตัวนอนแล้วครับ Bonne Nuit!

 

Sunrise! Sunrise!

วันนี้ไม่ผิดสัญญาแล้วนะครับ เราพาเพื่อนๆมาดูความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นทุกวันของธรรมชาติ เพียงแค่วันนี้เราอยู่กันที่ทะเลสมุย ทั้งรัศมีแสงอาทิตย์ ผืนน้ำ และปุยเมฆต่างก็เป็นใจรวมพลังกันเนรมิตให้เช้าตรู่ของเราวันนี้งดงามดังภาพวาด ความนิ่งสงบของยามเช้านั้นทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ เพียงตื่นเช้าอีกนิด เราก็สามารถเก็บแต้มกำไรชีวิตได้หลายเด้งก่อนกลับกทม.


 

Breakfast Matters

ได้เวลามื้อเช้าที่สำคัญที่สุดของวันอีกครั้ง ไลน์บุฟเฟ่ต์จัดเต็มเหมือนเดิม แต่คราวนี้เราเลือกสั่งเมนู A La Carte ที่ยังไม่ได้ลองมาดูบ้าง เช่น Coal Oven Eggs ที่มาพร้อมกับเห็ดอบอร่อยๆ Stir Fried Brown Organic Rice เมนูข้าวผัดวีแกนเพื่อสุขภาพ แล้วก็มี French Toast ที่มาพร้อมกับ Maple Gelato ที่ตั้งใจทำให้ละลายมาล่วงหน้าเพื่อทำหน้าที่แทน Maple Syrup ด้วย เราแอบเห็นเมนูชา Organic Jade Sword Tea แบบเดี๋ยวกับที่เราจิบที่ห้องอาหาร Act 5 เมื่อคืน ก็เลยจัดมาอีก 1 กาครับ ก็ชอบจริงๆนี่นา



One Final Dip

วันนี้เราต้อง Check Out กันแล้ว เลยขอไปจุ่มสระส่วนตัวที่ Villa เป็นครั้งสุดท้ายก่อนกลับ โอยยย ยังไม่อยากกลับเลยครับ



เราอาบน้ำให้สดชื่นอีกครั้ง บำรุงผิวกันซักหน่อย เราติดใจ Hydro Essense Lotion ของ Baum ตัวนี้เป็นพิเศษ นอกจากเนื้อสัมผัสจะเบาสบายซึมเร็วเหมาะกับอากาศร้อนของเมืองไทยแล้ว กลิ่นยังหอมมากๆด้วยครับ

โอ้เอ้เถลไถลในห้องกันพอหอมปากหอมคอ ก็ถึงเวลาที่เราจำเป็นต้องทยอยแพ็คกระเป๋าจนเกือบหมด เผลอแป๊บเดียวต้องกลับซะแล้ว เวลาแห่งความสุขนั้นผ่านไปเร็วจริงๆ แต่เรายังมีแพลนสุดท้ายคือมื้อกลางวันที่ Salt Society ก็เลยกะว่าจะกลับมาล้างหน้าล้างตาก่อนกลับหลังมื้ออาหารอีกซักรอบ จริงๆก็เป็นข้ออ้างที่จะถ่วงเวลายื้อวิลล่าเอาไว้ให้นานที่สุดครับ ฮ่าๆๆๆ

 

Modern Mediterranean Lunch At Salt Society

บรรยากาศมื้อกลางวันที่ Salt Society วันนี้ต่างจาก Sunday Brunch วันก่อนที่แสนตื่นตาตื่นใจ เมื่อความครื้นเครงลดดีกรีลงไป Vibe ชิลล์ๆสบายๆก็เคลื่อนตัวเข้ามาโปรยเสน่ห์กลายเป็นอีกอารมณ์


แม้อุปกรณ์จาน-ชาม-แก้วน้ำและ Cutlery สีฟ้า-ขาวต่างๆจะเป็นเซ็ตเดียวกันกับวันก่อน แต่จังหวะที่เนิบช้าลงในวันนี้ทำให้เรามีเวลาสังเกตและชื่นชมรายละเอียดของพวกมันมากขึ้น ยิ่งเมื่อวางรวมกันบนโต๊ะ ก็ยิ่งได้ฟีลทะเลที่สวยและมีคาแร็คเตอร์มากเลย

เราปลื้มแก้วค็อกเทลรูปสัตว์ทะเลของที่นี่มาก ได้ข่าวว่าทางโรงแรมสั่งทำพิเศษจากสเปนเลยครับ ทั้งน้องหอยสังข์และน้องปลาปั๊กเป้าต่างก็น่ารักสูสีกัน เราแอบเห็นว่ามีแก้วทรงแมงกระพรุนด้วย โอ้ยยยย อยากขอซื้อต่อกลับบ้านชะมัดเลย

มาเข้าเรื่องอาหารกันบ้างดีกว่า มื้อนี้เป็นอาหารสไตล์โมเดิร์นเมดิเตอร์เรเนียนครับ และเฉกเช่นทุกห้องอาหารในโรงแรมที่ Salt Society ก็มีกิมมิคสอดแทรกให้ลูกค้ารู้สึกสนุกอยู่ตลอดเวลา อย่างการตั้งชื่อหมวดหมู่ในเมนูให้น่าสนใจ เช่น หมวด Raw ที่เน้นอาหารดิบ หมวด Green เน้นสลัด หมวด Liquid เน้นซุป และหมวด Starch สำหรับเอาใจสายแป้ง เป็นต้น


ด้วยความที่เรายังอิ่มจากมื้อเช้าอยู่ ก็เลยพยายามสั่งเมนูไล้ท์ๆ มาลองชิมและถ่ายรูปมาฝากเพื่อนๆกัน


เริ่มต้นที่ Grilled Watermelon สลัดแตงโมย่างเพิ่มรสชาติด้วยเฟต้าชีส ถั่วพิสตาชิโอ้ วนิลา มะกอกคาลามาต้า และเกลือซูมัค จานนี้ตอบโจทย์มากครับ อร่อยแบบสดชื่นเบาๆ

จานต่อมาเป็น Cured Salmon Mille Feuille แซลมอนรมควันปรุงรสด้วยจิน มะกรูด เคร็มเฟรช เกลือมะนาว วางสลับชั้นกับ Puff Pastry กรอบๆ

Carbonara-Filled Tortellini ขอสั่งเมนูหนักๆซักจานนะครับ จานนี้เชฟเค้าเล่นสนุกเอาเกี๊ยวอิตาเลียนมาใส่ไส้เจลาโต้พาเมซานรมควันและเบค่อน ติ๊ต่างว่าเป็นซอสคาร์โบนาร่า น่าสนใจดีครับ

ตบท้ายด้วย Grilled White Snapper Fillet ที่เสิร์ฟพร้อมกับซัลซ่ามะม่วงสุก สลัดราดิคคิโอ้ อินทผาลัม มายองเนสรสมะนาว และผงผักชี


ตั้งแต่เข้าพักที่ Centara Reserve Samui มา ก็แทบจะยังไม่มีเวลาให้ท้องว่างเลยครับ พื้นที่ในกระเพาะถูก Reserved เอาไว้ด้วยอาหารอร่อยๆตลอดเวลาเลย เอ๊ะ นี่คือ Reserve Experience อีกรูปแบบหนึ่งหรือเปล่านะ :-P

 

Wrapping Up Our Stay สรุปความประทับใจ

2 วัน 3 คืนที่เราได้เข้าพักที่ Centara Reserve แห่งแรกของโลกที่เกาะสมุยนี้ เป็นช่วงเวลาที่พิเศษมากครับ สมกับความตั้งใจของแบรนด์ที่อยากจะสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับแขกที่เข้าพัก เราแอบได้ข่าวมาว่าทาง Centara มีแพลนขยายแบรนด์ Reserve ไปยังทำเลพิเศษอื่นๆอีก แต่เราขออุบไว้ก่อนว่าทำเลต่อไปจะเป็นที่ไหน เราเชื่อว่าจะต้อง “ว้าว” ยิ่งๆขึ้นไปแน่นอนครับ


สำหรับ Centara Reserve Samui นั้น เราคิดว่าทีมงานประสบความสำเร็จในการส่งมอบ Reserve Experience เกือบเต็ม 100% ทั้งที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน (แน่นอนครับว่าทุกๆโรงแรมก็ย่อมมีเรื่องให้ปรับปรุงพัฒนาได้อีกเรื่อยๆแหละ) โจทย์ที่แบรนด์ตั้งเอาไว้ ตีแตกแทบจะสมบูรณ์แบบ ทั้งในเรื่องสถานที่ที่งดงามกว้างขวางและมีประโยชน์ใช้สอยดีเยี่ยม (Reserve Space) อิสระในเรื่องเวลาทั้งการเช็คอิน-เช็คเอ้าท์ และการรับประทานอาหาร (Reserve Time) การนำเสนอและเชื่อมต่อวัฒนธรรมท้องถิ่นสู่ความเป็นสากลจนถึงมือลูกค้า (Reserve Culture) และการบริการที่ใส่ใจเหนือความคาดหมาย (Reserve Touch)


ส่วนตัวเรารู้สึกว่าความหรูหราของที่นี่นั้นมีเสน่ห์ที่ต่างไป อิสระที่ให้กับลูกค้านั้นทำให้ประสบการณ์ของ Centara Reserve Samui นั้น “เข้าถึงง่าย” และที่สำคัญคือ “คุ้มค่า” มากครับ น่าจะถูกจริตลูกค้าส่วนใหญ่ที่ชอบความยืดหยุ่นสบายๆแบบนี้ ในขณะเดียวกันก็ถูกโอบกอดเอาไว้อยู่ในมวลอารมณ์ที่หรูหรามีระดับ พร้อมกับได้ปรนเปรอตัวเองด้วย “ของดี” โดยเฉพาะในเรื่องอาหารการกิน


นี่น่าจะเป็นหนึ่งในโพสต์ที่พักที่ยาวที่สุดที่เราเขียนมา แต่ถ้าจะให้สรุปสั้นๆก็คือ การ Reserve ห้องพักที่ Centara Reserve Samui น่าจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดที่เราจะได้ Reserve ช่วงเวลาที่ดีของชีวิตให้เป็นรางวัลกับตัวเองครับ



โปรดติดตามการร่วมสนุกชิงรางวัลห้องพักฟรี!! เร็วๆนี้ ที่ Facebook @Hoparound.co


สำรองห้องพัก:

โทร 077-230-500, 02-102-1234

Line: @CentaraReserve https://lin.ee/9hca5xq

ข้อมูลเพิ่มเติม centarahotelsresorts.com/centarareserve/crs



ดู 4,697 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page