AMANPURI อมันปุรี The Original Aman
ป่ะ! ไป #hop ชมรีสอร์ทหรูระดับ Ultra-Luxury ที่ Amanpuri ภูเก็ตกัน ที่นี่คือรีสอร์ทแห่งแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นของ Aman แบรนด์ที่พัก Exclusive ที่เลอค่าที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลก และรีสอร์ทหรูแห่งนี้ยังเป็น Flagship Property ของแบรนด์ที่พิเศษสุดๆอีกด้วย
Aman (แปลว่าความสงบในภาษาสันสกฤติ) ไม่ได้เป็นเพียงแบรนด์ Hospitality สุดหรูที่มีโอกาสต้อนรับแขก A-list ทั่วโลกอยู่บ่อยๆเท่านั้น แต่ทุกๆ Property ของ Aman นั้นตั้งอยู่ในทำเล Exclusive ที่คัดสรรมาอย่างดีทั่วโลก ทั้งที่อยู่แนบชิดกับธรรมชาติที่งดงามตระการตา หรือเป็นสถานที่ทรงคุณค่าทางประวัติของแต่ละถิ่นที่ ทำให้ Aman เป็นมากกว่าที่พักสวยหรูทั่วๆไป แต่เป็นจุดหมายปลายทางที่หลายคนใฝ่ฝันว่าจะต้องไปเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิตเพื่อลิ้มรสความสมบูรณ์แบบในทุกๆองค์ประกอบของความเป็นสถานที่แห่งความสุขสงบเหนือระดับ
Exclusive Rate for Hoparound.co Fans !!
ราคาพิเศษเฉพาะ Hoparound.co เท่านั้น!!
ตั้งแต่โลเคชั่นที่งดงามทรงคุณค่าและเป็นส่วนตัวขั้นสุด งานสถาปัตยกรรมที่ผสานเสน่ห์วัฒนธรรมของสถานที่นั้นๆ ให้เข้ากับความสะดวกสบายตามวิถีชีวิตสมัยใหม่ได้อย่างมีรสนิยม
การบริการอันดีเยี่ยมไร้ที่ติ และที่เหนือชั้นในการฝึกอบรมทีมมากๆก็คือการแสดงออกถึงความจริงใจของพนักงานทุกคนที่เราสัมผัสได้จึงทำให้ไม่รู้สึกเกร็งใดๆเลย รวมไปถึงการสนับสนุนให้แขกได้ตักตวงเอาประสบการณ์ดีๆจากแต่ละโลเคชั่นให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะในรูปแบบของกิจกรรมที่ยูนีคและหลากหลาย หรือการช่วยให้แขกได้ออกไปสัมผัสกับวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชนจริงๆอย่างไม่เคอะเขิน ทั้งหมดนี้รวมเป็นความ Luxury ที่แท้จริงที่ไม่ได้มีเฉพาะเรื่องของ “มูลค่า” แต่ให้ความสำคัญกับ “คุณค่า” และการส่งมอบพลังอันดีงามจาก Aman ไปสู่แขกเพื่อให้บรรลุถึงความสุขสงบสมกับความหมายของชื่อแบรนด์ และที่น่าดีใจก็คือแบรนด์รีสอร์ทระดับท็อปของโลกอย่าง Aman นี้มีจุดเริ่มต้นที่แหลมเล็กๆที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของต้นมะพร้าวริมทะเลฝั่งตะวันตกของเกาะภูเก็ตบ้านเรานี่เอง
Amanpuri แปลว่า Place of Peace หรือสถานที่แห่งความสงบ
และจากประสบการณ์ตรง 3 วัน 2 คืนของเราที่นี่ มันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ แม้จะมีอายุถึง 32 ปีแล้ว แต่ทุกตารางนิ้วของที่นี่ก็ได้รับการดูแลอย่างยอดเยี่ยม และยังคงเปี่ยมด้วยเสน่ห์และรสนิยม เรือนที่พักสำหรับแขกจร (Guest Pavilion) ประมาณ 40 หลัง และวิลล่าที่มีเจ้าของซื้อขาดอีกประมาณ 47 หลัง ถูกออกแบบให้เป็นเรือนทรงอยุธยาโดยสถาปนิกชื่อดัง Ed Tuttle แม้จะมีอาคารเดี่ยวอยู่เป็นจำนวนมาก แต่การจัดวาง landscape และการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบนั้นทำให้เรารู้สึกถึงความสงบและเป็นส่วนตัวท่ามกลางแมกไม้ และต้นมะพร้าวจนน่าประทับใจ
ระหว่างเดินทางบนรถลิมูซีนของ Aman ที่ไปรับเรามาจากสนามบิน เราพยายามมองหาป้าย Amanpuri ระหว่างทาง แต่ก็ไม่เห็นเลย เราจึงไม่แน่ใจว่าเราใกล้ถึง Amanpuri แล้วหรือยัง แต่จู่ๆรถลิมูซีนของเราก็จอดลงอย่างนุ่มนวล และทันทีที่เราก้าวเท้าลงจากรถ เสียงฆ้องก็ดังกังวาลขึ้นเพื่อต้อนรับการมาถึงของเรา ทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นดาราฮอลลีวู้ดทั้งหลายที่เคยเป็นแขกที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น Leonardo DiCaprio, Tom Cruise หรือแม้กระทั่ง Beyonce ที่เข้ามาใช้บริการอยู่หลายครั้ง จากนั้นรถรับ-ส่งภายในรีสอร์ทก็มารับช่วงต่อเพื่อพาเราไปเข้าเช็คอินที่ Partial Ocean Pool Pavilions ของเราได้เลย โดยไม่ต้องเช็คอินที่ล็อบบี้เหมือนโรงแรมทั่วไป
Partial Ocean Pool Pavilions แบบ 2 ห้องนอน
หลังจากที่ Porter ทั้ง 3 คนช่วยยกสัมภาระของเราเข้าที่พักซึ่งมีลักษณะเป็นเรือนคู่สไตล์อยุธยาที่พร้อมสรรพไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแล้ว พนักงานต้อนรับอีกคนก็เข้ามาช่วยเรากรอกเอกสารในการเช็คอิน พร้อมกับแนะนำรายละเอียดต่างๆของ Pavilions ของเรา เริ่มตั้งแต่บริเวณด้านนอกซึ่งมีทั้งสระว่ายน้ำพร้อมเตียงอาบแดดส่วนตัว และศาลานั่งเล่นส่วนตัวอีก 2 หลังสำหรับแขกในเรือนนอนแต่ละเรือน
ด้านบนโต๊ะก็มีจดหมายจากทีมงานน่ารักๆ พร้อมช็อกโกแลตสุดอร่อย (เราประทับใจที่นี่มากจนกลับมาซ้ำรอบ 2)
ส่วนภายในเรือนนอนแต่ละหลังก็เป็นห้องนอนที่ดูกว้างขวาง มีสมาร์ททีวีขนาดใหญ่ซ่อนอยู่หลังบานเลื่อนไม้ อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ตู้เซฟ ระบบอิเล็คโทรนิคทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นหลอดไฟ แอร์ ทีวี นาฬิกาปลุกนั้นสามารถควบคุมด้วย iPad และยังใช้สั่ง Room Service และอ่านนิตยสารได้อีกด้วย หากต้องการความสดชื่นก็มีน้ำตะไคร้เป็น Welcome Drink ให้เราบริการตัวเองได้เลย ส่วนผลไม้ ขนม ชา กาแฟ (แบรนด์ illy) และเครื่องดื่มในตู้เย็นที่วางไว้ก็สามารถหยิบทานได้ตามสบายและมาเติมให้ทุกวันโดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม
และที่สำคัญสำหรับชาว Hoparound.co รับฟรี! In-room Cocktail Session for Two ทันที!! (เมื่อทำการจองผ่านอีเมลหรือโทรศัพท์โดยตรงกับทางโรงแรมแล้วแจ้ง โปรโมชั่นโค้ด Hop Around)
ที่ขนาดใหญ่กว่าห้องนอนก็คือห้องน้ำซึ่งมาพร้อมกับอ่างอาบน้ำแบบฝังบนพื้นไม้ยกระดับ แยกโซน Shower และโซนชักโครกต่างหากเป็นสัดส่วน มีผ้าขนหนูทั้งเช็ดหน้า เช็ดตัว รองเท้าใส่ในห้อง รองเท้าแตะใส่ไปหาด หมวกแก๊ปกันแดด กระเป๋าชายหาด ไปจนถึงเสื่อโยคะ สำหรับเครื่องประทินผิวนั้นเป็นของแบรนด์ Aman Skincare โดยเฉพาะ และมีให้ครบครันตั้งแต่ครีมอาบน้ำ เกลือขัดผิว สบู่ก้อนล้างมือ และโลชั่นบำรุงผิว โดยที่ของเหลวทุกอย่างจะถูกบรรจุไว้ในขวดเซรามิคเพราะ Aman มุ่งมั่นที่จะจำกัดการใช้พลาสติกให้น้อยที่สุด
สำหรับรอบที่สอง เราเลือกนอนห้องแบบ Ocean Pool Pavilion มีสระว่ายน้ำ วิวทะเล
ได้เวลามื้อเที่ยงพอดี เราสั่ง Room Service จากห้องอาหารไทย Buabok
มาภูเก็ตทั้งทีเราจึงสั่งเมนูอาหารใต้มาประเดิมมื้อแรกกันก่อนด้วยหมี่สะปำ แกงเหลือง คั่วกลิ้ง และหมี่หุ้นแกงปูใบชะพลู โดยทาง Aman นำมาเสิร์ฟให้ถึงศาลาริมสระส่วนตัวของเราเลย ยิ่งกว่านั้นเชฟกรรณิการ์ประจำห้องอาหาร Buabok ก็ให้เกียรติมาอธิบายอาหารแต่ละจานด้วยตัวเองทำให้เราประทับใจมาก รสมือของเชฟนั้นเข้มข้นถึงเครื่องแบบกลมกล่อมพอดี และที่สำคัญคือวัตถุดิบนั้นสดและคุณภาพดีจริงๆ
นั่งชิลรับประทานมื้อเที่ยงสไตล์ไทยๆที่ Beach Terrace
สำหรับรอบที่สองที่เราได้ไปเยือนอมันปุรี เราได้ลองไปชิมอาหารที่ Beach Terrace ติดริมหาดพันทรี บอกเลยว่ารสชาติอร่อยถึงเครื่องไม่แพ้กัน แถมบรรยากาศก็ฟินอีกด้วย
หาดพันทรี (Pansea Beach) หาดส่วนตัวของ Aman ที่สงบและงดงาม
อิ่มอร่อยกันจนพุงกางแล้วเราจึงไปเดินเล่นริมหาดพันทรี (Pansea Beach) หาดส่วนตัวของ Aman ที่งดงามและลงตัวด้วยองค์ประกอบต่างๆ ทั้งทรายที่ขาวละเอียดเหมาะแก่การนอนอาบแดด น้ำทะเลใสไล่เฉดสีเขียวอมฟ้าแกมน้ำเงิน ต้นมะพร้าวสูงลิ่วยืนตระหง่านเรียงรายอยู่ริมหาด แม้กระทั่งโขดหินธรรมชาติก็ตั้งประดับอยู่อย่างเหมาะเจาะ ทำให้บรรยากาศดูสงบสวยงามจริงๆ นอกจากจะมีพนักงานที่คอยให้บริการอาหารและเครื่องดื่มแล้ว ยังมีกิจกรรมทางน้ำแทบจะทุกรูปแบบให้เลือกเล่นได้ด้วยเช่น ตั้งแต่ของเบสิคอย่างคายัค จักรยานน้ำ ซีบ๊อบ เจ็ทสกี ฟลายบอร์ด สกูบา ไปจนถึงคลาสโยคะบนแพดเดิ้ลบอร์ด และคลาสสอนบังคับเรือใบเลยทีเดียว
Retail Pavilion ร้านรวมสินค้าที่คัดสรรโดย Aman ออกแบบโดยสถาปนิกชาวญี่ปุ่นผู้เลื่องชื่อ Kengo Kuma
สิ่งหนึ่งที่เราตื่นตามากก็คือ Retail Pavilion คอนเส็ปต์ใหม่ของ Aman ซึ่งมีที่ Amanpuri เป็นที่แรกในโลก ร้านรวมสินค้าดีไซน์ระดับแห่งนี้ออกแบบโดย Kengo Kuma สินค้าทุกชิ้นในร้านล้วนเป็นผลงานที่ทีมคัดสรรของ Aman ได้ออกไปหยิบเลือกเอามาจากทั่วโลก และหลายๆชิ้นก็ผลิตขึ้นให้กับ Aman เท่านั้นโดยเป็นการร่วมมือกันของ Aman กับศิลปินทั้งโลคอลและอินเตอร์ มีตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องประดับ สกินแคร์ งานฝีมือ ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้าน
เช้าวันที่สองเริ่มต้นที่ห้องอาหารไทย Buabok กับขนมจีนน้ำยาปูและเมนูเพื่อสุขภาพมากมาย
สำหรับเช้าวันที่สอง หัวใจเราโหยหาอาหารสไตล์ภูเก็ตอีกครั้ง ทางรีสอร์ทจึงเสิร์ฟขนมจีนน้ำยาปูและมีไข่เจียวปูแน่นๆ เป็นเบรคฟัสต์ปักษ์ใต้เพื่อสนองนี้ดของเรา ความจริงแล้วที่ Aman ยังมีห้องอาหารญี่ปุ่น Nama (ยังไม่กลับมาเปิดให้บริการในช่วงที่เราไป) และห้องอาหารอิตาเลียนที่ชื่อว่า Arva ด้วย เราจึงเลือกรับประทานอาหารอิตาเลียนเลิศรสในมื้อเย็นของเมื่อวานไป แต่เนื่องจากบรรยากาศค่อนข้างมืดเราจึงไม่ได้ถ่ายรูปมาฝากกัน